ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเห็นใจต่อเพื่อนร่วมโลกคนหนึ่ง
ซึ่งต้องตกอยู่ใน
ภาวะที่น่าเวทนายิ่งนัก
เมื่อทั้งร่างกายต้องมีหูดขึ้นชนิดรุนแรง จน มือ เท้า
แขน ขา
กลายสภาพไปดูคล้ายเป็นต้นไม้ มากกว่าเป็นอวัยวะของมนุษย์
เรื่องราวของนายเดเด้ หนุ่มชาวอินโดนีเซีย วัย 35 ปี
อาศัยอยู่ทางใต้
ของกรุงจาการ์ต้า ที่มีอาการผิดปกติมีหูดขึ้นทั่วร่างกายจน
ได้รับฉายาว่า
" มนุษย์ต้นไม้ " ที่นำมาเผยแพร่โดยดิสคัฟเวอรี่ แชแนล
และสำนัก
ข่าวทั่วโลก จนเป็นที่ตกตะลึงปนกับความเวทนาของคนทั่วโลก
โดย
นายเดเด้ต้องเผชิญกับความทรมานทางร่างกาย และจิตใจ มาเกือบ
20 ปี
ต้องถูกไล่ออกจากงาน ถูกชาวบ้านรังเกียจ และภรรยาทิ้ง
จนต้องมาใช้ชีวิตอยู่กับพ่อ และลูกสาวอีก 2 คน
มาวันนี้ชีวิตของเดเด้เริ่มมีความหวังขึ้นอีกครั้ง เมื่อแพทย์ชาวอเมริกา
Dr . Anthony Gaspari ผู้ที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือได้นำเลือดของเดเด้
ไปตรวจ ผลออกมาว่าแท้จริงแล้ว
ความผิดปกตินี้เกิดจากเชื้อไวรัสที่
ทำให้เกิดหูดในมนุษย์ทั่วไปที่มีชื่อว่า
Human Papilloma Virus (HPV)
ซึ่งถ้าคนปกติได้รับเชื้อนี้จากการสัมผัส
ก็จะเกิดหูดขึ้นตามร่างกายโดย
เฉพาะที่มือและเท้า
จะมีตุ่มหูดเกิดขึ้นมากน้อยก็แล้วแต่ภูมิต้านทาน
ของร่างกาย แต่ส่วนใหญ่แล้ว
ภูมิต้านทานของคนปกติจะสามารถ
ทำให้อาการดังกล่าวหายไปได้เอง
หรืออาจใช้ยารักษาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
แต่ในกรณีของนายเดเด้
ที่หูดแสดงอาการได้มากเพียงนี้
เกิดจากความ
ผิดปกติของยีนที่ทำหน้าที่สร้างภูมิคุ้มกัน
ทำให้ไม่สามารถต้านทาน
ไวรัสธรรมดาๆ ตัวนี้ได้
คงเป็นเหมือนที่เราพบเห็นคนที่เป็นหูดทั่วร่างกาย
ซึ่งก็พบได้อยู่บ่อยๆ
แต่ในรายเดเด้นี้ถือว่ามากที่สุดเท่าที่เคยพบมา
ล่าสุดมีข่าวออกมาว่านายเดเด้ยินดีที่จะไปรับการรักษาที่อเมริกาแล้ว
โดยอยู่ในความดูแลของ ดร. กาสปารี่ แต่ยังติดปัญหาเรื่องของค่าใช้จ่าย
และ
เรื่องหนังสือเดินทางเท่านั้น
เห็นแบบนี้แล้วทางการของอเมริกา
และอินโดนีเซีย คงต้องรีบจัดการโดยด่วน
คนทั้งโลกเอาใจช่วยอยู่
ทั้งนี้ดร. กาสปารี่ ได้เสนอแนวทางการรักษาไว้ว่า
จะใช้สารสังเคราะห์
จากวิตามินเอ เพื่อยับยั้งการเจริญเติบโต และ
ทำให้หูดที่ยื่นออกมา
เหล่านี้ลดขนาดลงไป ซึ่งอาจต้องใช้เวลากว่า 6
เดือนจึงจะเริ่มเห็นผล
แม้จะไม่ทำให้ร่างกายของเดเด้ หายเป็นปกติ
แต่น่าจะทำให้เดเด้ดำรง
ชีวิตอยู่ได้สบายขึ้น ซึ่งเพียงเท่านี้ เดเด้
ก็รู้สึกเป็นสุขมากแล้ว
หูดเกิดจากการติดเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งชื่อว่า
papilloma โดยเชื้อ
ไวรัสจะเข้าไปอยู่ในชั้นหนังกำพร้า
เกิดเป็นเนื้องอกบนผิวหนัง
ผู้ที่เป็นหูดส่วนใหญ่มักจะได้รับเชื้อไวรัสมาจากการสัมผัสโดยตรง
ผิวหนังที่ถลอกหรือถูกกดทับจะติดเชื้อหูดได้ง่าย
การแกะเกาจะทำให้
กระจายไปส่วนอื่นๆ ของร่างกายได้
หูดด้านข้างนิ้วเท้าทำให้นิ้ว
ที่อยู่ติดกันเป็นหูดที่บริเวณผิวหนังที่ชิด
กับหูดได้ เราสามารถพบ
หูดได้ในทุกวัยไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่
ลักษณะ
ของหูดนั้นจะมีลักษณะเป็นเม็ดนูนแข็ง ผิวขรุขระ
มีเม็ดเดียว
หรือเป็นหลายเม็ดก็ได้ คนที่ภูมิคุ้มกันต่ำจะมีจำนวนเม็ดมาก
ส่วนใหญ่
เกิดที่มือหรือเท้า ถ้าเป็นที่ฝ่าเท้าจะคล้ายตาปลา
เวลาเดินจะเกิดการ
กดทับตลอดเวลาจะทำให้มีอาการเจ็บมาก
หูดอาจหายได้เองถ้าปล่อยทิ้ง
ไว้โดยไม่ได้รับการรักษา
ส่วนใหญ่จะใช้เวลาประมาณ 2 ปี แต่ถ้าภูมิคุ้มกัน
ต่ำจะหายยาก ลุกลามได้ง่าย
ควรรีบรักษา
สำหรับการรักษามีหลายวิธี อาจใช้วิธีทายากัดหูด
ที่มีส่วนผสมกรดซาลิไซลิก
และกรดแลกติก แต้มหูดวันละ 2 ครั้ง ประมาณ 4-6
สัปดาห์ ซึ่งต้องใช้เวลา
และความตั้งใจในการแต้มยา
แต่จะไม่เจ็บไม่ปวดไม่เสียเลือด หายแล้ว
ไม่เป็นแผลเป็น
หรืออาจใช้วิธีผ่าตัดเอาออก จี้ออกด้วยไฟฟ้า หรือจี้ด้วย
ความเย็นก็ได้
สิ่งทีมีคนเข้าใจผิดเพราะหลงเชื่อกันมาเรื่อยๆ
คือการใช้
ธูปจี้หรือการใช้ยากัดหูดแรงๆ
ดังนั้นท่านจึงไม่ควรใช้ธูปจี้หรือยากัดหูด
แรงๆ เพราะจะทำให้เป็นแผลเป็น
เดเด้ ยังแสดงความเป็นห่วง คนใกล้ชิด ทั้งพ่อ และ ลูกสาวทั้งสอง
ว่าอาจจะติดเชื้อจากตนไป
แต่สิ่งที่เราเห็นกันนั้นทั้งพ่อและลูกสาวก็ยัง
เป็นปกติ
น่าจะทำให้ผู้ที่รับชมข่าวนี้สบายใจขึ้นมาบ้าง ที่แม้จะใกล้ชิดกัน
เพียงนี้
ก็มิได้จะติดจนเกิดอาการเช่นเดียวกัน เพราะสาเหตุมันเกิดจากไวรัส
กับความผิดปกติของยีนในตัวเดเด้เอง แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ควรประมาท
ไวรัส
มีอยู่ทุกหนทุกแห่ง อยู่ที่เราเองว่าจะรักษาความสะอาดของร่างกาย
และ
สร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงได้อย่างไร
ใครที่เห็นครั้งแรกรู้สึกแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองด้วยซ้ำ ว่าจะเกิดขึ้นกับคนได้
ภาพและข้อมูลจาก http://www.oknation.net
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น