ชาวบ้านเมืองสิชลขุดเจอ 'ศิวลึงค์ทองคำ' 2 องค์ อายุกว่า 1 พันปี
ส่งมอบกรมศิลปากร เก็บรักษา ชี้เป็นหลักฐานสำคัญยืนยันความ
รุ่งเรืองเมืองนครศรีธรรมราช
27 มี.ค. 57 นายเอนก สีหามาตย์ อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า ได้รับรายงานว่า
มีการขุดค้นพบศิวลึงค์ทองคำ 2 องค์ ซึ่งขุดค้นพบจากถ้ำบนเขาพลีเมือง ต.สิชล อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช
โดยนายเสกสันต์ นาคกลัด ชาวบ้านได้เข้าไปขุดมูลค้างคาวในถ้ำดังกล่าว พบแผ่นอิฐขนาด 16 ซม.
ยาว 30 ซม. เรียงกันอยู่จึงงัดแผ่นอิฐดังกล่าว พบอิฐแผ่นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส เมื่อยกอิฐขึ้น ก็พบว่าภายใน
มีผอบทำด้วยโลหะ มีฝาปิด เมื่อเปิดฝาผอบออก จึงพบศิวลึงค์ทองคำ จากการตรวจสอบของกรมศิลปากร
พบว่า ศิวลึงค์ทองคำ องค์แรกมีขนาดความสูงรวม 2 ซม. เส้นผ่าศูนย์กลาง 0.8 ซม. น้ำหนัก 12.7 กรัม
ส่วนองค์ที่ 2 ขนาดส่วนสูงรวม 2 ซม. เส้นผ่าศูนย์กลาง 0.9 น้ำหนัก 19 กรัม จากการประเมินอายุและ
ลักษณะของศิวลึงค์ ซึ่งเป็นแบบประเพณีนิยมอยู่ในราวพุทธศตวรรษที่ 12 หรือมีอายุกว่า 1, 000 ปี
มีการขุดค้นพบศิวลึงค์ทองคำ 2 องค์ ซึ่งขุดค้นพบจากถ้ำบนเขาพลีเมือง ต.สิชล อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช
โดยนายเสกสันต์ นาคกลัด ชาวบ้านได้เข้าไปขุดมูลค้างคาวในถ้ำดังกล่าว พบแผ่นอิฐขนาด 16 ซม.
ยาว 30 ซม. เรียงกันอยู่จึงงัดแผ่นอิฐดังกล่าว พบอิฐแผ่นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส เมื่อยกอิฐขึ้น ก็พบว่าภายใน
มีผอบทำด้วยโลหะ มีฝาปิด เมื่อเปิดฝาผอบออก จึงพบศิวลึงค์ทองคำ จากการตรวจสอบของกรมศิลปากร
พบว่า ศิวลึงค์ทองคำ องค์แรกมีขนาดความสูงรวม 2 ซม. เส้นผ่าศูนย์กลาง 0.8 ซม. น้ำหนัก 12.7 กรัม
ส่วนองค์ที่ 2 ขนาดส่วนสูงรวม 2 ซม. เส้นผ่าศูนย์กลาง 0.9 น้ำหนัก 19 กรัม จากการประเมินอายุและ
ลักษณะของศิวลึงค์ ซึ่งเป็นแบบประเพณีนิยมอยู่ในราวพุทธศตวรรษที่ 12 หรือมีอายุกว่า 1, 000 ปี
นายเอนก กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามนอกจากพบศิวลึงค์บริเวณดังกล่าว ยังพบ
โบราณวัตถุอีก 6 รายการ ประกอบด้วย
1. ผอบทำด้วยโลหะ สภาพชำรุด ผอบ สูง 2.5 ซม. มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 6.1 ซม. ส่วนฝามี
สภาพชำรุดสูง 2.3 ซม.
2. ผอบลักษณะทำด้วยโลหะ สภาพชำรุด สูง 2 ซม. ส่วนฝาผอบมีสภาพชำรุด
3. อิฐ รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสมีการคว้านรูปสี่เหลี่ยมตรงกลางด้านในจำนวน 2 แผ่น
4. อิฐ รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า จำนวน 3 ก้อน ผิวอิฐสีส้ม ก้อนอิฐมีสภาพสมบูรณ์ 2 ก้อน ชำรุด 1 ก้อน
5. พบฐานทำด้วยโลหะ (เงิน) สูง 1.1 ซม. กว้าง 2.3 ซม. มีรูตรงกลาง ลึก 0.6 ซม.
6. แผ่นรอง มีลักษณะเป็นแผ่นทองรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้างยาวด้านละ 0.7 ซม.
โบราณวัตถุอีก 6 รายการ ประกอบด้วย
1. ผอบทำด้วยโลหะ สภาพชำรุด ผอบ สูง 2.5 ซม. มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 6.1 ซม. ส่วนฝามี
สภาพชำรุดสูง 2.3 ซม.
2. ผอบลักษณะทำด้วยโลหะ สภาพชำรุด สูง 2 ซม. ส่วนฝาผอบมีสภาพชำรุด
3. อิฐ รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสมีการคว้านรูปสี่เหลี่ยมตรงกลางด้านในจำนวน 2 แผ่น
4. อิฐ รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า จำนวน 3 ก้อน ผิวอิฐสีส้ม ก้อนอิฐมีสภาพสมบูรณ์ 2 ก้อน ชำรุด 1 ก้อน
5. พบฐานทำด้วยโลหะ (เงิน) สูง 1.1 ซม. กว้าง 2.3 ซม. มีรูตรงกลาง ลึก 0.6 ซม.
6. แผ่นรอง มีลักษณะเป็นแผ่นทองรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้างยาวด้านละ 0.7 ซม.
อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ในพื้นที่บริเวณใกล้เคียงได้มีการพบ
โบราณวัตถุสำคัญๆ หลายชิ้น เมื่อปี 2525 อาทิ 1. พระวิษณุศิลา อายุประมาณครึ่งหลังพุทธศตวรรษที่ 13
และ 2. ธรณีประตูเป็นแผ่นหินปูน เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีรูสวมเดือย 3. กรอบประตูมีรอยสลักเป็นรูปกลม
และ 4. กรอบประตูทำด้วยหิน มีลักษณะเป็นแผ่นยาว และมีเดือยที่ปลายทั้งสองข้าง 5. แผ่นหินรูปวงกลม
ทำจากหินปูนทั้งสองแผ่น 6. เศียรเทวรูปปูนปั้น 7. เศียรพระปูนปั้น และ 8. พระพุทธรูปประทับยืนปางประทานพร
โบราณวัตถุสำคัญๆ หลายชิ้น เมื่อปี 2525 อาทิ 1. พระวิษณุศิลา อายุประมาณครึ่งหลังพุทธศตวรรษที่ 13
และ 2. ธรณีประตูเป็นแผ่นหินปูน เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีรูสวมเดือย 3. กรอบประตูมีรอยสลักเป็นรูปกลม
และ 4. กรอบประตูทำด้วยหิน มีลักษณะเป็นแผ่นยาว และมีเดือยที่ปลายทั้งสองข้าง 5. แผ่นหินรูปวงกลม
ทำจากหินปูนทั้งสองแผ่น 6. เศียรเทวรูปปูนปั้น 7. เศียรพระปูนปั้น และ 8. พระพุทธรูปประทับยืนปางประทานพร
อย่างไรก็ตามจากการศึกษาค้นคว้าข้อมูลทางโบราณคดีพบว่าในพื้นที่ อ.สิชล
มีเทวาลัยในศาสนาพราหมณ์ ไม่ต่ำกว่า 30 แห่ง กระจายอยู่ในอำเภอดังกล่าว ที่ผ่านมามีการพบศิวลึงค์
ในเขตอำเภอสิชลแล้ว 24 องค์ ซึ่งศิวลึงค์ทองที่พบ ถือว่าเป็นโบราณวัตถุชิ้นสำคัญ มีคุณค่าทางประวัติ
ศาสตร์ทางโบราณคดีอย่างสูง เพราะเป็นสิ่งแสดงถึงความศรัทธาในเทพเจ้าและความรุ่งเรืองทางการค้า
ของนครศรีธรรมราชโบราณ
มีเทวาลัยในศาสนาพราหมณ์ ไม่ต่ำกว่า 30 แห่ง กระจายอยู่ในอำเภอดังกล่าว ที่ผ่านมามีการพบศิวลึงค์
ในเขตอำเภอสิชลแล้ว 24 องค์ ซึ่งศิวลึงค์ทองที่พบ ถือว่าเป็นโบราณวัตถุชิ้นสำคัญ มีคุณค่าทางประวัติ
ศาสตร์ทางโบราณคดีอย่างสูง เพราะเป็นสิ่งแสดงถึงความศรัทธาในเทพเจ้าและความรุ่งเรืองทางการค้า
ของนครศรีธรรมราชโบราณ
"ผู้ค้นพบได้ประสานจะมอบศิวลึงค์ที่ขุดพบให้กับกรมศิลปากร เพื่อเก็บรักษาไว้
เป็นสมบัติของชาติ โดยจะมีพิธีมอบในวันที่ 1 เมษายน หลังจากนั้น จะนำมาจัดแสดงเพื่อให้ประชาชน
ได้ชมและศึกษาที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร 1 องค์ และอีก 1 องค์จะนำไปจัดแสดงที่
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ นครศรีธรรมราช"
เป็นสมบัติของชาติ โดยจะมีพิธีมอบในวันที่ 1 เมษายน หลังจากนั้น จะนำมาจัดแสดงเพื่อให้ประชาชน
ได้ชมและศึกษาที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร 1 องค์ และอีก 1 องค์จะนำไปจัดแสดงที่
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ นครศรีธรรมราช"
ภาพและข้อมูลจาก http://www.komchadluek.net/