ครอบครัวชีวิตรันทดหญิงสาว
วัย 19 ป่วยเป็นโรคประหลาด
ร่างกายหยุดการเจริญเติบโต ทำให้ตัวเล็กเท่าเด็กวัย 2 ขวบ
สมองไม่พัฒนาเดินและพูดจาไม่ได้แถมพ่อแม่ยังป่วยสารพัดโรครุมเร้าทั้งโรคหัวใจ
เบาหวาน และความดัน ต้องคอย
เลี้ยงดูลูกสาวที่มีสภาพเหมือนเด็กทารกช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เคยพาไปหาหมอระบุเป็นโรคไทรอยด์ แต่ไม่ได้รักษา
เพราะฐานะยากจน เผยลูกสาวหยุดการเจริญเติบโตตั้งแต่อายุ 2-3 ขวบ ลูกคนโตก็ตกงาน สามีเป็นช่างปูนหารายได้
จุนเจือครอบครัวเพียงคนเดียว ก็ต้องเลี้ยงดูกันไปตามยถากรรมจนกว่าใครจะตายก่อน วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือด้วย
เรื่องราวชีวิตรันทดของหญิงสาวอายุ 19 ปีป่วยเป็นโรคประหลาด ร่างกายหยุดเจริญเติบโตทำให้ตัวเล็กเท่าเด็ก 2 ขวบ
แถมพ่อแม่ยากจนและป่วยเป็นโรคประจำตัวสารพัดโรค เปิดเผยเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 13 ก.ค.2552 ผู้สื่อข่าว
ได้รับแจ้งว่ามีครอบครัวชาวบ้านครอบครัวหนึ่งต้องเผชิญความทุกข์ทรมานจากการเจ็บป่วยเป็นโรคกันทั้งครอบครัว
โดยเฉพาะลูกสาวที่อายุ 19 ปีแล้ว แต่ร่างกายเล็กเท่าเด็ก 2 ขวบ พักอยู่ด้วยกัน 3 คนพ่อแม่ลูก ที่บ้านเลขที่ 49
ใกล้วัดพิกุล หมู่ 1 ต.พระขาว อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา จึงเดินทางไปตรวจสอบ
บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูงสภาพเก่า พบนายมานะ ภู่บุญลาด อายุ 55 ปี และ นางอุไร ภู่บุญลาด
อายุ 54 ปี สองสามีภรรยาซึ่งทั้งคู่มีโรคประจำตัวคือ โรคหัวใจ เบาหวาน และความดันโลหิตสูง กำลังเลี้ยงดูลูกสาว
อยู่ใต้ถุนบ้าน โดยลูกสาวชื่อ น.ส.สุภาพร หรือน้องแอม ภู่บุญลาด อายุ 19 ปี มีสภาพร่างกายเหมือนเด็ก
วัย 2-3 ขวบทุกอย่าง น้ำหนักเพียง 13 กิโลกรัม และมีความสูง 60 ซม. ไว้ผมยาวถึงเอวและมีลิ้นใหญ่คับปาก
ถึงแม้ร่างกายมีอวัยวะครบสมบูรณ์แต่ก็มีสัดส่วนเหมือนเด็กเล็ก ไม่สามารถเดินหรือพูดจาสื่อสารใดๆ
ทำได้เพียงยิ้มเท่านั้น เนื่องจากสมองไม่มีพัฒนาการ ทำให้การเลี้ยงดูเป็นไปด้วยความยากลำบาก เหมือนเลี้ยง
เด็กทารกที่ต้องคอยป้อนนมป้อนข้าวและดูแลตอนขับถ่าย
นางอุไร ภู่บุญลาด ผู้เป็นแม่ ได้หยิบใบสูติบัตรของน้องแอมให้ผู้สื่อข่าวดู ระบุว่า เกิดเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2534 ที่ รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า แรกเกิดน้ำหนัก 2,700 กรัม สมบูรณ์ จากนั้นเปิดเผยด้วยสีหน้าเศร้าสร้อยว่า เดิมครอบครัว
เลี้ยงดูลูกสาวที่มีสภาพเหมือนเด็กทารกช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เคยพาไปหาหมอระบุเป็นโรคไทรอยด์ แต่ไม่ได้รักษา
เพราะฐานะยากจน เผยลูกสาวหยุดการเจริญเติบโตตั้งแต่อายุ 2-3 ขวบ ลูกคนโตก็ตกงาน สามีเป็นช่างปูนหารายได้
จุนเจือครอบครัวเพียงคนเดียว ก็ต้องเลี้ยงดูกันไปตามยถากรรมจนกว่าใครจะตายก่อน วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือด้วย
เรื่องราวชีวิตรันทดของหญิงสาวอายุ 19 ปีป่วยเป็นโรคประหลาด ร่างกายหยุดเจริญเติบโตทำให้ตัวเล็กเท่าเด็ก 2 ขวบ
แถมพ่อแม่ยากจนและป่วยเป็นโรคประจำตัวสารพัดโรค เปิดเผยเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 13 ก.ค.2552 ผู้สื่อข่าว
ได้รับแจ้งว่ามีครอบครัวชาวบ้านครอบครัวหนึ่งต้องเผชิญความทุกข์ทรมานจากการเจ็บป่วยเป็นโรคกันทั้งครอบครัว
โดยเฉพาะลูกสาวที่อายุ 19 ปีแล้ว แต่ร่างกายเล็กเท่าเด็ก 2 ขวบ พักอยู่ด้วยกัน 3 คนพ่อแม่ลูก ที่บ้านเลขที่ 49
ใกล้วัดพิกุล หมู่ 1 ต.พระขาว อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา จึงเดินทางไปตรวจสอบ
บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูงสภาพเก่า พบนายมานะ ภู่บุญลาด อายุ 55 ปี และ นางอุไร ภู่บุญลาด
อายุ 54 ปี สองสามีภรรยาซึ่งทั้งคู่มีโรคประจำตัวคือ โรคหัวใจ เบาหวาน และความดันโลหิตสูง กำลังเลี้ยงดูลูกสาว
อยู่ใต้ถุนบ้าน โดยลูกสาวชื่อ น.ส.สุภาพร หรือน้องแอม ภู่บุญลาด อายุ 19 ปี มีสภาพร่างกายเหมือนเด็ก
วัย 2-3 ขวบทุกอย่าง น้ำหนักเพียง 13 กิโลกรัม และมีความสูง 60 ซม. ไว้ผมยาวถึงเอวและมีลิ้นใหญ่คับปาก
ถึงแม้ร่างกายมีอวัยวะครบสมบูรณ์แต่ก็มีสัดส่วนเหมือนเด็กเล็ก ไม่สามารถเดินหรือพูดจาสื่อสารใดๆ
ทำได้เพียงยิ้มเท่านั้น เนื่องจากสมองไม่มีพัฒนาการ ทำให้การเลี้ยงดูเป็นไปด้วยความยากลำบาก เหมือนเลี้ยง
เด็กทารกที่ต้องคอยป้อนนมป้อนข้าวและดูแลตอนขับถ่าย
นางอุไร ภู่บุญลาด ผู้เป็นแม่ ได้หยิบใบสูติบัตรของน้องแอมให้ผู้สื่อข่าวดู ระบุว่า เกิดเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2534 ที่ รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า แรกเกิดน้ำหนัก 2,700 กรัม สมบูรณ์ จากนั้นเปิดเผยด้วยสีหน้าเศร้าสร้อยว่า เดิมครอบครัว
อยู่กรุงเทพฯ มีลูก 3 คน เป็นผู้หญิงทั้งหมด 2 คนแรกปกติดี มีเพียงน้องแอม
ลูกสาวคนเล็กที่เป็นแบบนี้ ทั้งที่
ตอนแรกเกิดก็ไม่มีอะไรผิดปกติ จนกระทั่งอายุ 2-3
ขวบก็เริ่มสังเกตถึงความผิดปกติ เพราะลูกสาวหยุด
การเจริญเติบโต
ไม่มีพัฒนาการทั้งทางสมองและร่ายกาย รูปร่างไม่เติบโต พูดจาไม่รู้เรื่อง
เอาแต่ยิ้มอย่างเดียว
จึงไปให้หมอตรวจสันนิษฐานว่าเป็นโรคไทรอยด์
แต่ไม่ได้รักษาจริงจัง จนเมื่อย้ายกลับมาอยู่บ้านเกิดที่อยุธยา
ก็ไม่ได้พาไปหาหมออีกเพราะฐานะยากจน ทุกวันนี้ลูกสาวคนโตก็มาตกงาน
ลูกสาวคนรองแต่งงานไปอยู่
ต่างจังหวัด ส่งเงินมาช่วยเหลือบ้าง
ส่วนสามีก็สุขภาพไม่แข็งแรง
ต้องทำงานรับจ้างเป็นช่างปูนเพื่อหาเงิน
มาเลี้ยงครอบครัว
ขณะที่ตนก็ต้องคอยเฝ้าเลี้ยงดูน้องแอม ทั้งที่ตัวเองก็ป่วยเป็นโรคประจำตัวหลายโรค
ปัจจุบัน
ได้รับเบี้ยคนพิการจาก อบต.พระขาว เดือนละ 500 บาท
ก็เลี้ยงกันไปตามยถากรรมจนกว่าใครจะตายกันไปก่อน
ด้านนายมานะกล่าวว่า ก็ต้องดูแลกันไปเพราะไม่รู้จะทำอย่างไร ระยะหลังๆ ร่างกายของตนก็เจ็บหนักขึ้น
ด้านนายมานะกล่าวว่า ก็ต้องดูแลกันไปเพราะไม่รู้จะทำอย่างไร ระยะหลังๆ ร่างกายของตนก็เจ็บหนักขึ้น
โรคเบาหวานรุกหนักจนขึ้นตา
นอกจากนี้ต้องยกของหนักทุกวันทำให้ปวดหลังปวดเอวเข้าไปอีก
แต่ก็ต้อง
อดทนสู้ชีวิตต่อไป โชคดีที่วัดพิกุลให้ไปช่วยงานก่อสร้างที่วัด
จึงพอมีเงินมาซื้อข้าวกินไปวันๆ ส่วนน้องแอ
มส่วนใหญ่จะให้กินนมถั่วเหลือง
หากเป็นข้าวก็กินได้ ไม่มากเพราะลิ้นคับปากทำให้กินลำบาก
ภาพจากอินเทอร์เน็ต และข้อมูลจาก http://www.thairath.co.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น