หลุมลึกลับ โผล่ไม่หยุดที่ไซบีเรีย

หลังจากสื่อของรัสเซีย รายงานข่าวการพบหลุมยุบขนาดใหญ่ ความกว้างกว่า 60 เมตร
ในคาบสมุทร"ยามัลม์" ทางตอนเหนือของแคว้น"ไซบีเรีย"ของรัสเซีย ห่างจากพื้นที่
ขุดเจาะก๊าซธรรมชาติที่สำคัญไป 30 กิโลเมตร จนทำให้เกิดข้อสงสัยถึงที่มา

ของหลุมยุบขนาดใหญ่นี้  

                                 

ล่าสุดยังพบหลุมยุบปริศนาอีก 2 หลุม ในพื้นที่บริเวณใกล้เคียงกันในเขตไซบีเรีย 

ของรัสเซีย หลุมแรกมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 15 ส่วนอีกหลุมหนึ่งมีเส้นผ่านศูนย์กลาง

4 เมตร ทำให้มีการถกเถียงกันว่า หลุมปริศนาเหล่านี้เกิดจากอะไรกันแน่

 โดยก่อนหน้านี้ นักวิทยาศาสตร์ของรัสเซียได้เดินทางลงพื้นที่ เพื่อสำรวจหลุม

ดังกล่าวแล้ว คาดว่า สาเหตุที่เกิดหลุมยุบขนาดใหญ่ น่าจะมาจาก
การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิในพื้นที่

 เนื่องจากหลุมดังกล่าวมีส่วนประกอบของน้ำแข็ง และไม่มีร่องรอยการระเบิด
ของอุกาบาต ที่เป็นสาเหตุให้เกิดหลุม

แต่ถ้าสังเกตดีๆจะพบว่า ลักษณะของหลุม ปากหลุมจะมีการยกตัวขึ้นมาเหมือนกับ

โดนกระแทกหรือชนอย่างแรง เหมือนกับหลุมอุกกาบาตที่ Arizona,USA นะ 

หลุมอุกกาบาตที่ Arizona,USA

สภาพหลุมยุบที่กัวเตมาลา

ดูคลิปเพิ่มเติม

                    

ภาพจาก อินเทอร์เนต และข้อมูลจาก http://www.dailymail.co.uk/

ตะลึง!หมอถอนฟัน232ซี่ จากปากของหนุ่มอินเดีย

แพทย์ชาวอินเดียประสบความสำเร็จในการถอนฟันทั้งหมด 232 ซี่ ออกจากปาก

ของหนุ่มวัย 17 ปี โดยใช้เวลากว่า 7 ชั่วโมง

                             เมื่อ 24 ก.ค. 57  คุณหมอสุนันดา ดีแวร์ หัวหน้าแผนกทันตกรรมของโรงพยาบาล
เจเจ ในนครมุมไบของอินเดีย เล่าให้ฟังว่า หนุ่มวัย 17 คนนี้มีนามว่า อาชิก กาไว ถูกนำตัวมา
รักษาเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หลังจากมีอาการบวมบริเวณขากรรไกรด้านขวา โดยเขาต้อง
ทนทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวดมานานถึง 18 เดือน เพราะหมอในหมู่บ้านที่เขาอาศัยอยู่
ทางตะวันตกของประเทศ ไม่สามารถระบุสาเหตุของอาการที่เกิดขึ้นได้

                             สุเรช กาไว พ่อของอาชิก เล่าให้ฟังว่า ลูกชายของเขาเริ่มมีอาการปวด
แบบรุนแรงเมื่อช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา เขาเองก็กลัวว่าลูกจะเป็นมะเร็ง จึงตัดสินใจพาลูก
มารักษาที่เมืองใหญ่

                             คุณหมอ บอกว่า อาการของอาชิก เกิดขึ้นได้ยากมาก ไม่เคยเห็นมาก่อน
ในรอบ 30 ปี มีชื่อเรียกว่า คอมเพล็กซ์ คอมโพสิท โอดอนโทมา เป็นเนื้องอกไม่ร้ายแรง
ชนิดหนึ่ง ซึ่งทำให้เหงือกสร้างฟันออกมามากกว่าปกติ โดยในกรณีของอาชิก น่าจะเริ่ม
ขึ้นหลังฟันน้ำนมของเขาหลุด และจำนวนมากถึง 232 ซี่ขนาดนี้ คุณหมอ บอกว่า คง
ทำลายสถิติโลก 

                             ในตอนแรกทีมแพทย์ไม่สามารถถอนออกมาได้ด้วยเครื่องมือปกติ
 จนกระทั่งต้องใช้สิ่ว และค้อนมาช่วยในการถอน / หลังจากที่ทีมแพทย์ ซึ่งประกอบด้วย
ทันตแพทย์ 2 คน และผู้ช่วยอีก 2 คน ได้เปิดเนื้องอกออก ปรากฏว่า ฟันซี่เล็ก ซี่น้อย
ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับไข่มุก ก็เริ่มไหลออกมาเต็มไปหมด และเมื่อผ่านไปนาน 7 ชั่วโมง
ก็นับจำนวนได้ 232 ซี่ จากขากรรไกรเดียว ทำให้ตอนนี้ อาชิก กลับมามีฟัน 28 ซี่
เหมือนกับคนปกติแล้ว 

                             นอกจากจะหายป่วยแล้ว อาชิก ยังไม่ต้องเสียค่ารักษาพยาบาล
แม้แต่รูปีเดียวด้วย เนื่องจากโครงการช่วยรักษาพยาบาลผู้ขาดรายได้ของรัฐบาล
เป็นฝ่ายออกค่าใช้จ่ายให้เต็มจำนวน

                             ข้อมูลที่ปรากฏในตำราแพทย์ ระบุว่า โรคนี้มีผลกระทบต่อขากรรไกร
บน และจำนวนฟันที่มากที่สุดเท่าที่เคยมีการถอนออกมาอยู่ที่ 37 ซี่ แต่สำหรับกรณีของ
อาชิก เนื้องอกได้เกิดลึกเข้าไปกว่าปกติบริเวณขากรรไกรล่าง และจำนวนฟันก็มี
มากกว่าหลายเท่า

ดูคลิปเพิ่มเติม

ภาพและข้อมูลจาก http://www.komchadluek.net/

วัยรุ่นจีนกำลังฮิต “สักฟัน”

เว็บไซต์ข่าวจีน “ซ่างไห่ เดลี”รายงานจากเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เมื่อวันที่ 21 ก.ค.ว่า

วัยรุ่นจีนในเมืองเซี่ยงไฮ้ของจีนกำลังฮิตตามเทรนด์สักเจาะแนวใหม่ “สักฟัน” ซึ่งมีทั้ง

การวาดน้ำหมึก การประทับพิมพ์รูปลงไปบนฟันหรือการใช้สว่านขนาดเล็กเจาะเข้าไปที่

ผิวชั้นนอกของฟัน เพื่อวาดรูปต่างๆลงบนฟันตามต้องการ รูปที่ได้รับความนิยมมักเป็น

ใบหน้าของศิลปินคนโปรด ข้อความสื่อรักและหัวกระโหลก สนนราคาการสักอยู่ที่

75-200 ดอลลาร์สหรัฐ (2,423-6,460บาท) ทั้งนี้ การสักฟันมีมาตั้งแต่ราว 10 ปีที่แล้ว

ในสหรัฐ ญี่ปุ่นและล่าสุดเทรนด์ดังกล่าวกำลังเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นจีนโดยเฉพาะ

ในเมืองเซี่ยงไฮ้ ซึ่งทันตแพทย์ท้องถิ่นกล่าวว่า พวกเขามักได้รับโทรศัพท์เข้ามา

สอบถามว่า เปิดให้บริการสักฟันหรือไม่ เป็นประจำ

นายฝู ฟู่เกิน ทันตแพทย์ในโรงพยาบาลท้องถิ่นเซี่ยงไฮ้เผย เขาก็ไม่ส่งเสริมให้

เหล่าวัยรุ่นทำตามเทรนด์นี้ พร้อมกับให้คำแนะนำถึงความเสี่ยงที่อาจจะต้องประสบ

หลังจากการสัก ทั้งนี้ การพิมพ์รูปต่างๆไปบนผิวฟันอาจทำให้เกิดอาการแพ้ และการสัก

โดยการเจาะชั้นนอกของฟันก็เป็นการทำลายฟันโดยตรง  อย่างไรก็ตาม คลินิกทันตกรรม

หรือคลินิกศัลยกรรมบางแห่งก็ยังคงเปิดให้บริการสักฟันอยู่ดี

ภาพและข้อมูลจาก http://www.dailynews.co.th/

แอลจี เปิดตัวสายรัดข้อมือ สำหรับตามดูลูกหลานแบบเรียลไทม์

แอลจี เปิดตัวสายรัดข้อมือ สำหรับตามดูลูกหลานวัยอนุบาล ประถมศึกษา  เช็กตำแหน่งลูกผ่านสมาร์ทโฟนแบบเรียลไทม์ 

รายงานข่าวจากกรุงโซล เกาหลีใต้ แจ้งว่า แอลจี อีเลคทรอนิคส์ ต่อยอดประสบการณ์ใหม่
สำหรับผู้ปกครองที่มีบุตรหลาน ด้วยสายรัดข้อมือ คิซออน หรือ  KizON อุปกรณ์ติดตาม
ตัวใหม่ล่าสุดจากแอลจี ดีไซน์พิเศษสำหรับเด็กวัยอนุบาลและประถมศึกษา เพื่ออำนวย
ความสะดวกในการติดตามตำแหน่งของเด็กจากสมาร์ทโฟนแบบเรียลไทม์ด้วยจีพีเอส
และไวไฟ โดยเปิดตัวที่ประเทศเกาหลีใต้ไปเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

วิธีใช้งาน ผ่านระบบโทรฯ สายตรงเพียงกดปุ่มเดียว (One Step Direct Call)  ผู้ปกครอง
สามารถสื่อสารกับเด็กได้อย่างง่ายดาย และทราบข้อมูลสถานที่ที่เด็กอยู่ได้ตลอดทั้งวัน
นอกจากนี้ เด็ก ๆ ยังสามารถติดต่อกลับไปยังหมายเลขโทรศัพท์ที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
ได้ด้วยการกดปุ่มเดียวกัน โดยผู้ปกครองสามารถเปลี่ยนหมายเลขดังกล่าวเมื่อใดก็ได้
ผ่านสมาร์ทโฟนบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.1 ขึ้นไป หากเด็กไม่รับสายจาก
หมายเลขโทรศัพท์ที่กำหนดไว้ล่วงหน้าใน 10 วินาที  จะเชื่อมสายกับไมโครโฟน
ในตัวเครื่องโดยอัตโนมัติ เพื่อให้ผู้ปกครองสามารถฟังจากเสียงจากสถานที่ที่เด็ก
อยู่ได้ อีกหนึ่งฟังก์ชั่นสำคัญ คือการแจ้งเตือนตำแหน่ง (Location Reminder) ซึ่ง
ผู้ปกครองสามารถกำหนดให้มีการแจ้งเตือนสถานที่ในเวลาที่ระบุไว้ได้ตลอดทั้งวัน

ภาพและข้อมูลจาก http://www.dailynews.co.th/

การต่อคิวด้วยรองเท้า ของคนไทย

เมื่อวันที่ 19 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโลกของสื่อสังคมออนไลน์ หรือโซเชียลมีเดีย
ในต่างประเทศ ได้มีการนำภาพ "การจองคิวด้วยรองเท้า ของคนไทย" ไปเผยแพร่กัน
อย่างกว้างขวาง เนื่องจากชาวต่างชาติไม่เคยพบเห็นพฤติกรรมดังกล่าวจากชนชาติใด
ในโลก ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไปต่าง ๆ นานา เกี่ยวกับพฤติกรรมดังกล่าว

โดยเสียงส่วนใหญ่ระบุว่า ภาพที่เห็นอาจเกิดขึ้นได้ในสถานที่ราชการ หรือโรงพยาบาล
ที่มีผู้ใช้บริการจำนวนมาก ส่วนบางรายก็ระบุว่ เป็นแง่มุมหนึ่งของคนไทยที่มีเล่ห์เหลี่ยม
น่าสนใจ อย่างไรก็ตามภาพดังกล่าวเคยถูกเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ อย่างทวิตเตอร์
ของ@bigbiggyabc ช่วงปลายเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมาแล้ว

ทั้งนี้การจองคิวด้วยรองเท้า ตามภาพที่ปรากฏอาจไม่สามารถนำไปใช้ได้จริง เนื่องจาก
สถานที่ราชการหรือโรงพยาบาลใหญ่ ๆ ส่วนมาก จะใช้วิธีการ“เรียกคิว” ตามหมายเลข
ที่ได้รับมาตั้งแต่แจ้งความประสงค์เพื่อรับบริการจากสถานที่นั้น ๆ

แต่จากที่มีผู้มาแสดงความคิดเห็นก็ระบุว่า สภาพเช่นนี้ยังมีอยู่จริง ในโรงพยาบาลรอบนอก
หรือในต่างจังหวัดบางแห่งที่มีคนไข้มากๆ ซึ่งทำให่ไม่ต้องมาเสียเวลายืนรอนาน ถ้าหากว่า
เป็นตัวผู้ป่วยเองมายืนรอคิวเป็นชั่วโมง อาการอาจถึงขั้นวิกฤตก่อนได้พบแพทย์ที่รักษาก็ได้
ก็ไม่เสียหายอะไรที่จะมีความคิดสร้างสรรค์แบบนี้ขึ้นมา ก็เข้าท่าดีนะ หรือคุณว่าไง?

ภาพและข้อมูลจาก http://www.dailynews.co.th/

หมอปลาย ทำนายเลข 1177 รหัสแห่งความตาย อาถรรพ์หรือแค่บังเอิญ

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ WOODYTALK CH สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

            หมอปลาย ณวรชา พินิจโภคากรทำนาย ทิ้งเลข 1177 รหัสแห่งความตาย
ความสูญเสียจำนวนมาก อาถรรพ์หรือแค่บังเอิญ หลังเกิดเหตุการณ์ช็อกโลก
MH17 มาเลเซีย แอร์ไลน์ส ถูกยิงตก เกี่ยวข้องกับเลข 17

            จากเหตุการณ์อันสุดสะเทือนใจที่ทำเอาคนทั่วโลกช็อกไปตาม ๆ กัน เมื่อ
เครื่องบินโดยสาร สายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส (Malaysia Airlines) โบอิ้ง 777
เที่ยวบินที่  MH17 บินจากกรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ มุ่งหน้าไปกรุง
กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ถูกยิงตกที่เมืองชักตาร์สก์ แคว้นโดเนตสค์ ทาง
ตะวันออกของประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2557

            โดยเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุให้ผู้โดยสารและลูกเรือรวม 298 คน
เสียชีวิตยกลำ... ทั้งนี้ หลายคนที่ทราบข่าวก็ตื่นตระหนกตกใจ พร้อมกับคำถามและ
ข้อสงสัยมากมายที่ต้องการข้อสรุปโดยเร็วที่สุด เพราะในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา เกิดโศก
นาฏกรรมหลายต่อหลายครั้งทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ

            อย่างไรก็ดี ไม่รู้ว่าเรื่องราวดังกล่าวเป็นเหตุบังเอิญหรืออะไรกันแน่.. เมื่อเลข
ที่เกี่ยวข้องกับโศกนาฏกรรมต่าง ๆ ตรงกับเลขยมบาลที่ หมอปลาย ณวรชา พินิจโภคากร
เคยได้กล่าวไว้ว่า... เลข 11 และ 77 หมายถึงอุบัติเหตุ ความตาย ความสูญเสีย
จำนวนมาก เป็นรหัสแห่งการสูญเสียของปีนี้ ซึ่งจะเกิดขึ้นในเดือน 7 และนับจากนี้ไป
อีก 38 วัน จะเกิดเหตุการณ์ร้าย ๆ คล้ายกันขึ้นอีก ส่วนปีนี้เป็นปีแห่งหายนะ
เหตุการณ์ร้าย ๆ จะเกิดขึ้นแทบทุกเดือน ไม่ใช่แค่ประเทศไทย แต่เป็นทั่วโลกเลยทีเดียว

            
ข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องบิน MH17 เกี่ยวข้องกับเลข 7 หลายตัวมาก ได้แก่

-เครื่องบินลำนี้ เป็นเครื่องบินที่มีชื่อเรียกว่า MH17 
-เครื่องบินลำนี้ เป็นเครื่องบินโบอิ้ง 777
-เครื่องบินลำนี้ เริ่มบินครั้งแรกเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 เดือน 7(กรกฎาคม)  1997 (2540)
-เครื่องบินลำนี้ บินครั้งสุดท้ายเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 เดือน 7 (กรกฎาคม)  2014 (2557)
-เครื่องบินลำนี้ ใช้งานเป็นเวลาทั้งสิ้น  17 ปี

รวมเลข 7 ณ ขณะนี้มีอยู่ทั้งหมด  9 ตัว

ทั้งนี้ คงต้องรอดูกันต่อไปว่า เลข 1177 จะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือเลข
อาถรรพ์จากเสียงกระซิบของยมบาลจริง ๆ


ดูคลิปเพิ่มเติม

ข้อมูลจาก http://www.youtube.com/ และ http://hilight.kapook.com/

วิธีกำจัดมดจ้า เอาแบบไม่ตายแต่หนีหาย

วิธีการกำจัดมด” 7 วิธีมาฝากเพื่อนๆ ได้เลือกใช้ตามสะดวกค่ะ
วิธีที่ 1 : น้ำสบู่ช่วยกำจัดมด...นำน้ำยาล้างจานมาใส่ขวดสเปรย์ไว้ 1 ช้อนชา และ
เติมน้ำลงไป เขย่าให้เข้ากันหรือผสมน้ำมันมินท์ น้ำมันผิวส้ม หรือผิวส้มลงไปในน้ำ
ด้วยก็ได้ แล้วนำไปฉีดบริเวณรังมดหรือทางเดินของมดวิธีที่ 2: เปลือกไข่ไล่มด…นำเปลือกไข่มาเผาไฟแล้วไปวางไว้ที่ๆมดเดินผ่าน
 
วิธีที่ 3 : ใช้พริกไล่มด…นำพริกแห้งป่นละเอียด 100 กรัม ผสมน้ำ 1 ลิตร หมัก
ทิ้งไว้ 1 คืน กรองเอาแต่น้ำ นำมาผสมน้ำสบู่ 1 : 5 ส่วน ใช้ฉีดพ่น ทุก 7 วัน
ควรทดลองแต่น้อย ๆ ก่อน และใช้อย่างระมัดระวังเพราะอาจเกิดการระคายเคือง
ต่อผิวหนังได้ หรือนำใบและดอกของพริกมาคั้นผสมน้ำไปฉีดพ่น เพื่อป้องกัน
การระบาดของไวรัส โดยฉีดก่อนที่จะมีการระบาดของไวรัส

วิธีที่ 4 : พริกป่นปิดรูมด...ให้โรยพริกป่น สะระแหน่แห้ง กากกาแฟ ตามบริเวณ
ที่มดเดินหรือบีบมะนาวตามรูเข้าของมด อาจจะทิ้งเปลือกมะนาวไว้ตรงนั้น
หรือไม่ก็ปลูกสะระแหน่ไว้รอบบ้าน มดจะไม่กล้าเข้าใกล้

วิธีที่ 5 : น้ำมันก๊าดกันมด...หาเศษผ้าที่ไม่ใช้แล้วมาตัดเป็นชิ้น ๆ ความยาว
พอประมาณ ชุบกับน้ำมันเครื่องพอหมาดหรือจาระบี แล้วนำมาพันรอบขาตู้
หรือโต๊ะหรือใช้ปูนขาวใส่ภาชนะรองที่ขาตู้ และหากพบมดไต่ขึ้นมาตามรอย
แตกร้าวของคอนกรีตให้ใช้น้ำมันก๊าดเทลงไปในร่องก็ได้ค่ะ

วิธีที่ 6 : ไล่มดด้วยขมิ้น…ให้เอาขมิ้นพอสมควรมาตำจนละเอียด จากนั้น
เทน้ำมันก๊าดผสมลงไป กวนให้ข้นๆ นำขมิ้นพสมน้ำมันก๊าดไปโรยบริเวณที่มีมด
มดจะหนีหายไปหมด

วิธีที่ 7 : ใช้สารส้มกันมด…นำสารส้มมาละลายในน้ำอุ่นที่เราต้มไว้ จากนั้นนำ
ไปราดในบริเวณที่มดเดินผ่าน แต่วิธีนี้ใช้ได้ดีสำหรับมดดำเท่านั้นนะเพราะมัน
จะกลัวสารส้ม และจะไม่มาบริเวณนั้นอีก

**เพียงเท่านี้เพื่อนๆก็สามารถกำจัดมดออกจากบ้านได้แล้วค่ะ สำหรับใครที่มี
วิธีการกำจัดมดแบบอื่น อย่าลืมนำมาแบ่งปันกันบ้างนะคะ

ภาพจากอินเทอร์เนต และข้อมูลจาก https://www.facebook.com/Maeban.co.th

พบไส้เดือนยักษ์ ยาว 5 ฟุต หนัก 1 ปอนด์ในเอกวาดอร์

สิ่งที่นักตกปลา มักใช้เป็นเหยื่อในการตกปลาก็คือ ใส้เดือน แต่ถ้าเป็นใส้เดือนตัวนี้ อยากรู้จังว่า
จะตกปลาตัวขนาดไหน มีการค้นพบใส้เดือนยักษ์ขนาดยาว 5 ฟุต หรือ 1.5 เมตร หนักประมาณ
500 กรัม อยู่บริเวณใกล้ภูเขาไฟ Sumaco ในเอกวาดอร์ ถ้าใครกลัวใส้เดือนอยู่แล้ว เจอตัวนี้
เข้าไปมีหวังเป็นลมทั้งยืน

ภาพและข้อมูลจาก http://www.deedeejang.com/

ได้กลิ่นน้ำอบไทยขณะเข้าปรับปรุงตึกนารีสโมสร

เมื่อวันที่ 19 ก.ค.2014 ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ตลอดทั้งวันเจ้าหน้าที่กรมยุทธโยธาทหารบก ได้ทำการปรับปรุง รื้อภายในตัวอาคารตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล หลังจากที่ในทั้งห้องทำงานของโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี และห้องรองโฆษกฯ ได้มีการรื้อโครงสร้างออกทั้งหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยตลอดทั้งวันมีเจ้าหน้าที่สำนักงานโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ยังคงขนย้ายสิ่งของ อุปกรณ์ อาทิ คอมพิวเตอร์ โต๊ะ ตู้ อย่างต่อเนื่อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่สำนักโฆษกฯกำลังเก็บอุปกรณ์ เพื่อขนย้ายสิ่งของอยู่บริเวณห้องด้านหลังศูนย์แถลงข่าว หรือตึกพระอาทิตย์ ก็ได้ตะโกนร้องเรียกเพื่อนที่อยู่ด้วยนอกเข้ามาช่วย ด้วยอาการสีหน้าแสดงออกถึงการตกใจ เนื่องจากว่าขณะที่เก็บของอยู่นั้น จู่ ๆ ไปได้กลิ่นน้ำอบไทยโบราณคละคลุ้งไปทั่วบริเวณที่กำลังเก็บของ ซึ่งจากการสอบถามเพื่อนที่เข้าไปช่วยเหลือก็กล่าวเช่นกันว่าได้กลิ่นน้ำอบไทยเหมือนกัน สร้างความหวาดผวาขนหัวลุกให้กับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างมาก ทั้งนี้เจ้าหน้าที่สำนักโฆษกฯ ได้รีบสอบถามกับเจ้าหน้าที่กรมยุทธโยธาทหารบก ที่กำลังทำการรื้อภายในอาคารตึกนารีสโมสรว่าได้จุดธุปขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในตึกนารีสโมสรหรือยัง โดยเจ้าหน้าที่กรมยุทธฯระบุว่า ทางทีมงานยังไม่ได้ไหว้ขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในตึกนารีสโมสร จากนั้นเจ้าหน้าที่กรมยุทธฯ และเจ้าหน้าที่สำนักโฆษกฯ จึงได้ทำการจุดธูปไหว้ขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก่อนที่จะทำการรื้อถอน เพื่อปรับปรุงตึกนารีสโมสรต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สำหรับประวัติตึกนารีสโมสรนั้น มีเรื่องเล่าต่อ ๆ กันมาในหมู่ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ทำเนียบรัฐบาลถึงความอาถรรพ์ของตึกนารีสโมสร ซึ่งจากการสอบถามข้าราการเก่าแก่ที่ทำงานประจำทำเนียบรัฐบาลมานาน ระบุว่า เคยมีข้าราชการทำเนียบทำงานในช่วงดึกได้มองมาที่กระจกด้านหลังตึกนารีสโมสรก็เห็นเป็นเงาสะท้อนในกระจกเห็นเป็นร่างผู้ชาย สูงใหญ่กำยำมีหนวด แต่งกายนุ่งผ้าแดงไม่สวมเสื้อยืนอยู่ภายใน รวมถึงยังมีการพบเห็น ชายร่างใหญ่เช่นกันแต่งกายสะอาดสะอ้านสวมชุดทรงพระราชทานสีขาว (ราชปะแตน) และนุ่งผ้าอยู่บนตึกพระอาทิตย์ ด้านหลังห้องแถลงข่าวรัฐบาล และได้ยินเสียงคนเดินลากโซ่ตรวน และเสียงคนกำลังควบม้าด้วย.

ภาพจากอินเทอร์เนต ข้อมูลจาก http://www.dailynews.co.th/

ทะเลสาบหนองหานอุดรธารี เป็นทะเลสาบที่แปลกที่สุดในโลก ลำดับที่ 2

ทะเลสาบหนองหาน อุดรธารี ดังกระหึ่มโลก เมื่อซีเอ็นเอ็นเทคะแนนในลำดับที่ 2 เป็นทะเลสาบที่แปลกที่สุดในโลกทีี่ควรไปเยี่มชม ด้วยความงดงามของดอกบัวแดงนับหมื่นๆ ดอกพรึ่บเต็มบึง

               เว็บไซต์ซีเอ็นเอ็นดอทคอมเปิดเผยรายงานการจัดอันดับบึงน้ำสุดแปลกทั่วโลกที่เป็นที่หมายการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยว โดยจัดให้หนองหาน จ.อุดรธานี ของไทย เป็นทะเลสาบที่แปลกที่สุดอันดับสองของโลก รองจากทะเลสาบแมงกะพรุน(Jellyfish Lake) ในสาธารณรัฐปาเลา ประเทศหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกทางตะวันออกของฟิลิปปินส์ 

               ซีเอ็นเอ็นระบุว่า ทะเลสาบแต่ละแห่งมีระบบนิเวศที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง ทำให้สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในแหล่งน้ำนั้นปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมที่เป็นอยู่ และแม้จะมีทะเลสาบมากถึงกว่า 3 ล้านแห่ง ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วโลก แต่กลุ่มทะเลสาบที่คัดเลือกมาในครั้งนี้มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ที่น่าสนใจที่สุด

               ทั้งยังอธิบายถึงเอกลักษณ์ของทะเลสาบแมงกะพรุนบนเกาะอิลมาร์ก ในหมู่เกาะร็อก ของสาธารณรัฐปาเลา เป็นดินแดนที่ไม่มีการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ แต่ที่นี่เป็นสวรรค์ของแมงกะพรุนขนาดใหญ่น้อยนับล้านตัว แมงกะพรุนที่นี่ไม่ต้องออกล่าเหยื่อเหมือนแมงกะพรุนโดยทั่วไป เพราะได้รับสารอาหารโดยตรงจากสาหร่ายซิมไบโอติกที่อาศัยอยู่ในเนื้อเยื่อ ทำให้แมงกะพรุนในทะเลสาบแห่งนี้ไม่มีพิษ นักท่องเที่ยวจึงสามารถลงเล่นน้ำท่ามกลางฝูงแมงกะพรุนโดยไม่ต้องกลัวว่าจะได้รับอันตราย
                             
               ส่วนทะเลสาบหนองหาน อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี นั้น มีบัวสีแดงเป็นจำนวนมาก และ เบ่งบานเหนือผิวน้ำทั่วพื้นที่บึงนับ 2 หมื่นไร่ ทำให้เกิดเป็นภาพของทุ่งดอกไม้น้ำที่ยิ่งใหญ่ราวกับพรม ดอกบัวในหนองหานจะเริ่มเบ่งบานตั้งแต่เดือนตุลาคม หลังจากฤดูฝนผ่านพ้นไป และจะเบ่งบานจนเต็มบึงในช่วงเดือนธันวาคม ในเวลานั้นจะเห็นชาวบ้านและนักท่องเที่ยวพายเรือมาชมความงามของดอกบัวในหนองหานอย่างเต็มที่

               ซีเอ็นเอ็นยังอธิบายด้วยว่า หนองหาน หรือที่รู้จักกันในชื่อ ทะเลบัวแดง นั้น จะงดงามที่สุดในช่วงก่อนเที่ยง ซึ่งเป็นเวลาที่ดอกบัวบานเต็มที่ เปล่งประกายความงดงามของดอกบัวสีชมพูสด และเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของอุดรธานี จังหวัดที่อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ทางตอนเหนือราว 500 กิโลเมตร
                                     
               สำหรับบึงหนองหาน คือทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ ที่กินพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ใน อ.กุมภวาปี กับบางส่วนในพื้นที่ อ.ประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี ความอุดมสมบูรณ์ของบึงหนองหานถือเป็นต้นแบบที่น่าสนใจต่อการศึกษาระบบนิเวศวิทยา เพราะมีความชัดเจนในเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างพืชพรรณและสัตว์ กลับคืนมาเป็นผลิตผลให้ชาวบ้านได้เก็บเกี่ยวเลี้ยงชีพและหล่อเลี้ยงชุมชนจนเป็นภาพวิถีชีวิตของชาวหนองหานมานานปี
        
               ขณะที่ความอุดมสมบูรณ์ของบึงหนองหานก่อเกิดวงจรชีวิตของบัวแดง หรือ “บัวสาย” ซึ่งเป็นประจักษ์พยานถึงความอุดมสมบูรณ์ที่ควรค่าแก่การศึกษา จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมบัวแดงที่บึงหนองหานจึงงอกงามทั่วท้องน้ำไปไกล สุดลูกหูลูกตานับเป็นหมื่นๆดอก เพื่อเชิญชวนทุกผู้คนได้มาชมทุ่งทะเลบัวแดง แหล่งชมทุ่งดอกไม้ตามธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จะได้เต็มอิ่มและเพลิดเพลินกว่าการนั่งเรือชมความงามอย่างเดียว

                              
               ส่วนทะเลสาบแห่งอื่นที่ซีเอ็นเอ็นจัดนั้น ได้แก่ อันดับ 3 ทะเลสาบลา เบรีย พิตช์ ในประเทศตรินิแดด ที่มีแอสฟัลต์เหลวอยู่เต็มท้องทะเลสาบ หรือเรียกว่าทะเลสาบยางมะตอยและเป็นแหล่งส่งออกแอสฟัลต์ของโลกตั้งแต่ 500 ปีที่แล้ว 

            อันดับ 4 ทะเลสาบบอยลิ่ง (Boiling Lake)ในประเทศโดมินิกัน ที่เป็นแหล่งน้ำพุร้อนขนาดใหญ่ที่มีน้ำร้อนผุดขึ้นมาจากใต้ผิวโลกตลอดทั้งปี 

          อันดับ 5 ทะเลสาบแมนนิกัวแกน (Lake Manicouagan)ประเทศแคนาดา ทะเลสาบที่ล้อมรอบเกาะไว้เป็นวงกลม 

          อันดับ 6 ทะเลสาบลากูน่า โคโลราโด(Laguna Colorada) ประเทศโบลิเวีย ที่อยู่สูงถึง 14,000 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล และฉาบทาไว้ด้วยสาหร่ายสีแดงที่พบได้เฉพาะแหล่งน้ำที่เป็นด่างอย่างรุนแรง

               อันดับ 7 ทะเลสาบบนยอดภูเขาเอเรบัส (Mount Erebus) บนทวีปแอนตาร์กติกา ที่มีน้ำร้อนผุดขึ้นจากใต้ผืนพิภพ ที่ความสูง 12,500 ฟุต ตัดกับสภาพอากาศที่หนาวเย็นสุดขั้วของทวีปขั้วโลกใต้ 

               อันดับ 8 ทะเลสาบฮิลเลอร์ (Lake Hillier)ในประเทศออสเตรเลีย 

             อันดับ 9 ทะเลสาบสุพีเรีย (Lake Superior)สหรัฐอเมริกา 

            อันดับ 10 ทะเลสาบเมดิซีน (Medicine Lake) ประเทศแคนาดา 

            อันดับ 11 ทะเลสาบเนตรอน(Lake Natron) ประเทศแทนซาเนีย 

            อันดับ 12 ทะเลสาบแมคเคนซี่ (Lake McKenzie)ประเทศออสเตรเลีย 

           อันดับ 13 ทะเลสาบพาวิลเลียน(Pavilion Lake) ประเทศแคนาดา 

           อันดับ 14 ทะเลสาบนีโยส (Lake Nyos) ประเทศแคเมอรูน 

           ส่วนทะเลสาบเดดซี (Dead Sea) ที่คนไทยรู้จักกันดี เป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่มีปริมาณเกลือมากที่สุดในโลกในบริเวณพรมแดนอิสราเอล-จอร์แดน อยู่ในอันดับที่ 15

ข้อมูลจาก http://www.komchadluek.net/

ฮือฮา! หนุ่มจันท์อายุ 19 สูงเพียง 99 ซม.

เมื่อ 11 ก.ค.2557 ชาวบ้าน อ.สอยดาว จ.จันทบุรี ต่างประหลาดใจกับหนุ่มอายุ 19 ปี
ที่มีส่วนสูงเพียง 99 เซนติเมตร แต่พัฒนาการทางสมองยังคงเจริญเติบโตเหมือนกับ
คนรุ่นเดียวกันทั่วไป แม้ร่างกายจะแคระแกร็นก็ตาม

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยัง หมู่บ้านเขาพลูทอง ต.ปะตง อ.สอยดาว พบกับ นายเสริมศักดิ์
ไม้สูงเนิน อายุ 19 ปี หรือที่ได้รับฉายาจากเพื่อนๆ ว่า "ตี๋ ขอเคีลยร์" หนุ่มที่มีส่วนสูง
เพียง 99 เซนติเมตร น้ำหนัก 15 กิโลกรัม สัดส่วนเท่ากับเด็กอายุ 5-6 ขวบ

นางแพง ไม้สูงเนิน แม่ของนายเสริมศักดิ์ เปิดเผยว่า สาเหตุที่ทำให้ลูกชายเกิดมาแคระ
แกร็น น่าจะมาจากการตั้งครรภ์ตอนอายุมากแล้ว ตนมีท้องลูกชายคนดังกล่าวตอนอายุ
ย่างเข้า 50 นายเสริมศักดิ์ เกิดมาดูปกติดีทุกอย่าง น้ำหนักตัว 2,200 กรัม จนกระทั่ง
อายุ 6 ขวบ ร่างกายของนายเสริมศักดิ์ก็หยุดเจริญเติบโต มีเพียงสมองเท่านั้นที่ยังมี
พัฒนาการตามปกติ

นางแพง เล่าว่า หลังพบว่าลูกชายมีความผิดปกติ ก็พาไปหาหมอทั้งที่ จ.จันทรบุรี และ
กรุงเทพฯ แพทย์ระบุว่า ลูกชายมีภาวะขาดฮอร์โมน ซึ่งเป็นผลจากการตั้งครรภ์ในช่วง
เลยวัยมีครรภ์ แพทย์แนะนำให้รักษาแต่มีค่าใช้จ่ายสูงมาก จึงตัดสินใจไม่พาไปรักษา
และปล่อยให้ลูกชายมีชีวิตเหมือนต่อไป

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา นายเสริมศักดิ์ ได้รับการยอมรับจากเพื่อนๆ โดยทั่วไป แม้ว่ามี
ร่างกายแคระแกร็น แต่ไม่ได้เป็นปมด้อยของชีวิดแต่อย่างใด อีกทั้งเพื่อนๆ ยังยกให้เป็น
ลูกพี่ประจำกลุ่ม และไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนรุ่นเดียวกันที่มีส่วนสูงและการเจริญเติบโต
ตามปกติ แถมยังมีสาวที่คบหาดูใจแล้วด้วย

ปัจจุบัน นายเสริมศักดิ์ ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับการใช้ชีวิตประจำวัน ช่วยเหลือตัวเองได้
ตามปกติ อาจจะมีปัญหาเรื่องเสื้อผ้ารองเท้านิดหน่อย ส่วนตอนไปทำบัตรประชาชน
เมื่อตอนอายุ 15 ปี ญาติต้องอธิบายกันยกใหญ่ พร้อมกับแสดงหลักฐานใบแจ้งเกิด
เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่เชื่อว่าอายุครบ 15 ปีบริบูรณ์

ภาพและข้อมูลจาก http://news.sanook.com/

พบแมวตาเพชรที่ชัยภูมิ

ฮือฮา!พบแมวตาเพชรสุดยอดสัตว์หายาก

ฮือฮาพบแมวตาเพชรคนแห่ขอโชคแน่นวัดดังเชื่อเป็นสุดยอดสัตว์ใน
ตำนานสุดยอดหายาก เตรียมเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวกระตุ้นคนเข้า
วัดปฏิบัติธรรม

               10ก.ค.2557 ที่วัดเรืองธรรมวนาราม หมู่ 9 บ้านบ่อทองคำ ต.ซับสีทอง อ.เมือง
จ.ชัยภูมิ ต่างมีชาวบ้านจำนวนมากพากันแตกตื่นฮือฮาไปทั่วทั้งตำบล หลังทราบข่าวว่ามี
หลวงพ่อสมาน  กันตวิโร อายุ 64 ปี ซึ่งเป็นพระเดินทางมาจาก จ.นครราชสีมา เพื่อมาขอ
จำพรรษาในช่วงเข้าพรรษาปีนี้ที่วัดดังในหมู่บ้านและมีแมวเพศผู้ สีเทาอมน้ำตาล ลายคล้ายเสือ
อายุเกือบ 1 ปี ติดตัวมาด้วย

               มีคนสังเกตเห็นว่าแมวตัวนี้ มีสิ่งประหลาดในตัว มีดวงตาเป็นแสงคล้ายแสงเพชร
เปล่งประกายออกมาตลอดสวยงดงาม คล้ายแก้วสารพัดนึก และเหมือนพญาแมว ที่แม้กระทั่ง
สุนัขในวัด ก็ต่างเกรงกลัวแมวตัวนี้กันไปหมด ไม่มีแมว หรือสนัขในวัดตัวใดๆกล้าเข้าใกล้เพราะ
เกรงอำนาจจากสายตาที่เปล่งแสงเพชรออกมาให้เห็นตลอด เหมือนสัตว์ที่ถือว่าเป็นแมวตาเพชร
ที่เป็นสุดยอดสัตว์หายากในตำนาน ที่หาชมได้ยากและไม่เคยมีใครพบเห็นในชีวิตมาก่อนต่าง
พากันทราบข่าวและแห่ขอรอชมกันต่อเนื่องจนแน่นวัดต่อเนื่อง

               หลังหลวงพ่อสมานรูปนี้พึ่งย้ายมาอยู่ขอจำพรรษาที่วัดดังกล่าวได้เพียงเดือนเศษ
จนโด่งดังฮือฮาไปทั่วทำให้คนต่างพากันเดินทางจากทั่วสารทิศเพื่อมารอชมขอพรแมวตาเพชร
แน่นวัดไม่ขาดสายและต่างขอพรได้โชคลาภ แม้กระทั่งคนเจ็บป่วยมาขอให้หายอย่างต่อเนื่อง

                     

               หลวงพ่อสมาน เจ้าของแมวตาเพชร ตัวนี้ เปิดเผยว่า ได้แมวตัวนี้มาจากป่า ที่หลง
เข้ามาวัด 2 ตัว สมัยเมื่อจำวัดอยู่ที่วัดใหม่อัมพวัน อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา อีกตัวไม่มีตาเพชร
และตัวนี้เห็นมีลักษณะประหลาดมีตาเปล่งแสงคล้ายเพชรออกมาตลอด จึงนำมาเลี้ยงไว้ อีกกว่า
10 วัน ก็จะมีอายุครบ 1 ปี พอดี เมื่อเดินทางมาขอจำวัดจำพรรษา ที่วัดเรืองธรรมวนาราม
ในช่วงใกล้วันเข้าพรรษาปีนี้ จึงนำแมวติดตัวมาด้วย

               และเมื่อมีญาติโยมมาเห็นก็พากันเชื่อว่าเป็นแมวตาเพชรเป็นสัตว์ที่หายากในตำนาน
ซึ่งเป็นเรื่องศรัทธราของแต่ละบุคคลไปว่าจะเป็นแมวตาเพชรเหมือนในตำนานหรือไม่ก็ว่ากันไป
ซึ่งพากันเชื่อว่าหากแมวตัวนี้ตายก็จะถอดดวงตาให้เจ้าของดวงตาเป็นเพชร ก็ไม่ได้คิดอะไรเพียง
แต่เลี้ยงไว้เป็นเพื่อนปฏิบัติธรรมเท่านั้น

               ที่สำคัญอยากให้คนตั้งใจเข้าวัดจำศีลปฏิบัติธรรมในช่วงเข้าพรรษาปีนี้ให้มากขึ้นเท่านั้น
ส่วนใครจะเชื่อไม่เชื่ออย่างไรก็ว่ากันไป และเมื่อมาอยู่ที่นี่ก็อยากให้ช่วยกันสร้างสิ่งที่ดีให้กับวัดมากขึ้น
เมื่อมาเห็นแล้วทั้งสถานที่เผาศพของวัดก็ยังไม่มี ทั้งกำแพงวัดประตูก็ยังไม่มี ก็อยากจะให้ช่วยกัน
สร้างและปรับปรุงวัดแห่งนี้ให้เป็นสถานที่ยึดเหนี่ยวจิตใจเป็นที่พึ่งทางใจที่ดีต่อไปให้มากขึ้นด้วย
ก็จะเป็นเรื่องดีต่อไป
            
               เมื่อทุกคนต้องการให้แมวตาเพชรอยู่ที่นี่ก็อยากจะให้ช่วยกันพัฒนาที่ทางวัดเองก็น่าจะ
สามารถเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงปฏิบัติธรรมได้ดีมากขึ้น และสอดคล่องกับแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ
ของจังหวัดชัยภูมิที่ขึ้นชื่อระดับประเทศที่อยู่ใกล้ทั้งแหล่งท่องเที่ยวมอหินขาวสวนหินล้านปี และ
ป่าปลงพันปี ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญขึ้นชื่อระดับประเทศของจังหวัดชัยภูมิอีกด้วย คนที่สนใจ
อยากจะเดินทางมาเที่ยวและแวะมาดูแมวตาเพชรก็ไม่ว่ากัน มาได้ตลอดเมื่อเป็นสิ่งที่จะช่วยให้คน
มีความสุขและได้มีโอกาสเข้าวัดบ้างก็เป็นสิ่งดีต่อไป

               นางวงเดือน เลขนอก อายุ 45 ปี ชาวบ้านหมู่ 9 รายหนึ่งที่ทราบข่าวและมารอขอชมบาร,u
แมวตาเพชรในครั้งนี้ด้วย กล่าวว่า หลังได้มาดูแมวตาเพชรตัวนี้แล้วรู้สึกประทับใจมาก และเชื่อว่าเป็น
แมวตาเพชรแท้ๆเหมือนอย่างสัตว์ในตำนานที่เป็นสุดยอดสัตว์หายาก ตลอดระยะเวลาที่แมวตาเพชร
มาอยู่ที่นี่กว่า 1 เดือน มีคนมาดูมาขอโชคลาภ ก็สมใจทุกราย หรือแม้กระทั่งขอพรให้หายป่วย ก็หาย
อย่างน่าประหยาดทุกรายไปด้วยเช่นกัน ซึ่งก็อยากให้เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่หมู่บ้านกันต่อไป

               เช่นเดียวกับนางทองคำ สนิทเชื้อ อายุ 60 ปี ชาวบ้านที่เดินทางมารอขอชมแมวตาเพชร
อีกกรายกล่าวว่า ในชีวิตไม่เคยเห็นมาก่อน และถือว่าการได้มาชมแมวตาเพชรครั้งนี้ถือว่าโชคดีมาก
ที่เห็นแล้วเกิดสิริมงคลโชคลาภในชีวิตครั้งนี้มาก เหมือนสัตว์ในตำนานมาก ที่เคยฟังแต่เรื่องเล่าต่อๆ
กันมาเท่านั้น แต่เมื่อมาดูด้วยตนเองถือว่าสวยงามมากและถือว่าเป็นบุญครั้งแรกในชีวิตครั้งนี้ด้วยภาพจากอินเทอร์เน็ตและข้อมูลจาก http://www.komchadluek.net/

จีนสร้าง"รันเวย์"บนภูเขา

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า จีนสร้างความฮือฮาเตรียมเปิดใช้รันเวย์ใหม่ บนภูเขาในเมืองเฮชิ ในมณฑลกวางซี ทางตอนใต้ของประเทศ อย่างเป็นทางการในเดือนหน้า โดยรันเวย์นี้อยู่บนยอดเขาที่อยู่เหนือระดับน้ำทะเลกว่า 8 พันฟุต

รายงานระบุว่า รันเวย์ดังกล่าวถูกออกแบบโดยเหล่าวิศวกรซึ่งได้ออกแบบตัดยอดภูเขาหลายลูก เพื่อใช้ทำเป็นรันเวย์ ใช้งบประมาณสร้างราว 80 ล้านปอนด์ (4,000 ล้านบาท) มีทางวิ่งยาว 1.4 ไมล์ สร้างตั้งแต่ปลายปี 2008 แล้วเสร็จเมื่อปีที่แล้ว โดยรันเวย์แห่งนี้อยู่ท่ามกลางภูเขาหลายลูกตั้งแต่ทิศเหนือและทิศตะวันตกเฉียงเหนือ

ขณะที่รันเวย์มีลักษณะแคบ สามารถรองรับการลงจอดของเครื่องบินได้เพียง 3เ ที่ยวต่อชม. เมื่อเทียบกับสนามบินใหญ่ ๆ ที่โดยปกติจะมีรันเวย์ที่รองรับให้เครื่องบินลงจอดได้ 1 ชม.ต่อ 20 เที่ยว ทั้งนี้ สำหรับในอดีตที่ผ่านมา การเดินทางไปเมืองเฮชิ จะต้องขึ้นเครื่องบินไปลงสนามบินเหลียงเจียง ในเมืองกุ้ยหลิน และตามด้วยนั่งรถกินระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร 

ภาพและข้อมูลจาก http://www.matichon.co.th/