วันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2556

แหล่งน้ำจืดขนาดยักษ์ใต้ทะเล


                        นักวิจัยออสเตรเลียพบแหล่งน้ำจืดขนาดมหึมาอยู่ใต้พื้นมหาสมุทรบริเวณไหล่ทวีประหว่าง
ออสเตรเลีย จีน อเมริกาเหนือ และแอฟริกาใต้ โดยคาดว่าปริมาณอาจมากถึง 5 แสนลูกบาศก์กิโลเมตร
                        วินเซนต์ โพสต์ จากมหาวิทยาลัยฟลินเดอร์ส ในออสเตรเลีย เผยแพร่ผลศึกษาในวารสา
รเนเจอร์ ฉบับล่าสุดว่า ปริมาณแหล่งน้ำที่ว่านี้มีมากกว่าหลายร้อยเท่าเมื่อเทียบกับปริมาณน้ำที่เราขุดจาก
ใต้บาดาลในศตวรรษที่ผ่านมานับจาก ค.ศ. 1900 และขณะที่แหล่งน้ำจืดบนโลกของเรากำลังมีปัญหาขัดสน
มากขึ้นเรื่อยๆ  การค้นพบแหล่งน้ำที่มีความเค็มต่ำนอกชายฝั่ง จึงเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น เพราะถือเป็นอีกทางเลือก
สำหรับมนุษย์ที่กำลังแสวงหาหนทางลดผลกระทบจากภัยแล้งและขาดแคลนน้ำ
                        ยูเอ็น วอเทอร์ หน่วยงานด้านน้ำของสหประชาชาติ ประเมินว่าปริมาณการใช้น้ำขยายตัวเร็ว
กว่าอัตราการเพิ่มขึ้นของประชากรสองเท่าในศตวรรษที่แล้ว เนื่องจากความต้องการน้ำในภาคเกษตรและการ
ผลิตเนื้อสัตว์ ปัจจุบันมีประชากรโลกกว่า 40% ที่อยู่ในสภาพขาดแคลนน้ำ และภายในปี 2030 จะเพิ่มเป็
นร้อยละ 47
                        การวิจัยปริมาณน้ำใต้พื้นทะเลมาจากการรวบรวมผลการวิจัยใต้ทะเล ทั้งที่ทำเพื่อวัตถุประสงค์
ทางวิทยาศาสตร์ หรือสำรวจหาแหล่งก๊าซธรรมชาติและน้ำมัน ซึ่งทุกผลการศึกษามีจุดร่วมอย่างหนึ่ง คือการ
ค้นพบน้ำจืดใต้พื้นทะเล
                        แหล่งน้ำจืดใต้พื้นทะเลก่อตัวมานานหลายล้านปีในอดีต เมื่อระดับน้ำทะเลลดลงและพื้นที่
ก่อนเป็นมหาสมุทรในปัจจุบัน ดูดซับน้ำฝนลงไปใต้พื้น เมื่อน้ำแข็งขั้วโลกเริ่มหลอมละลายเมื่อราว 2 หมื่นปีก่อน 
พื้นที่ดังกล่าวสูญหายไปใต้น้ำแต่ชั้นหินอุ้มน้ำยังคงอยู่โดยมีชั้นดินเหนียวและดินตะกอนคุ้มกัน จะว่าไปก็
เปรียบเทียบได้กับแอ่งน้ำทั้งหลายที่โลกพึ่งพาอาศัยเป็นแหล่งทำน้ำดื่ม แต่สิ้นเปลืองน้อยกว่าการน้ำทะเล 
มาขจัดความเค็ม และนอนว่าการขุดเจาะน้ำจืดใต้สมุทรจะมีราคาแพง อีกทั้งต้องระวังอย่างมากที่จะต้อง
ไม่ให้ชั้นหินอุ้มน้ำที่เป็นตัวป้องกันเกิดการปนเปื้อน

ภาพและข้อมูลจาก http://www.komchadluek.net

วันศุกร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ต้นกล้วยประหลาด ลำต้นตายแล้วแต่ยังออกลูกได้


เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.นี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีต้นกล้วยประหลาด ลำต้นตายแล้วแต่ยังออกลูกได้ ที่บริเวณข้างบ้านพักคนงาน ด้านหลังปั๊มน้ำมันคาลเท็กซ์ เลขที่ 67/2 ถนนทหาร ต.หมากแข้ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี จ.อุดรธานี จึงเดินทางไปตรวจสอบพบต้นกล้วยน้ำว้าแห้งเฉาตาย 1 ตัน เนืื่องจากก่อนหน้านี้มีพนักงานของปั๊มน้ำมัน ตัดทิ้งในช่วงเทศกาลลอยกระทง ในช่วงเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา แต่ตรงปลายต้นกลับมีกล้วยออกมา 1 หวี รวม 10 ลูก สร้างความประหลาดใจให้กับผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก

ด้าน นายสุวัฒน์ สมนึก อายุ 47 ปี พนักงานของปั๊มน้ำมันที่พบเห็นกล้วยประหลาดคนแรก เล่าให้ฟังว่า ต้นกล้วยน้ำว้าที่ว่านี้มีพนักงานของปั๊มน้ำมันปลูกไว้เมื่อ 5-6 ปีที่แล้ว จากนั้นมีหน่อแตกขึ้นมาเรื่อย ๆ และล้มหายตายไปด้วยเช่นกัน แต่ที่แปลกใจตรงที่ว่ามีกล้วยอยู่ต้นหนึ่ง หลังจากตัดทิ้งไปแล้ว แต่กลับยังมีลูกผลออกมาให้เห็นอีก  จึงรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมากที่ต้นกล้วยตายแล้วยังออกลูกได้แถมไม่มีปลีกล้วยด้วย

ภาพและข้อมูลจาก http://www.dailynews.co.th