วันเสาร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ตะลึง!!ทะเลสาบโผล่กลางทะเลทรายตูนิเซียอย่างฉับพลัน



ไทม์ออฟอินเดีย - ทะเลสาบลึกลับปรากฏขึ้นมาอย่างปริศนาในทะเลทรายของประเทศตูนิเซีย แปรเปลี่ยนผืนแผ่นดินที่อ้างว้างกลายเป็นชายหาดอย่างฉับพลันภายในชาติที่ถูกครอบงำด้วยภาวะภัยแล้ง พร้อมกันนั้นยังดึงดูดนักท่องเที่ยวหลายร้อยคน แม้มีคำเตือนเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการปนเปื้อนสารพิษก็ตาม

       


       ทะเลสาบแห่งนี้ถูกพบโดยคนเลี้ยงแกะทะเลทรายเมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน และจนถึงตอนนี้ยังไม่สามารถหาคำอธิบายได้ว่าทะเลสาบที่ได้รับการตั้งชื่อว่า "กัฟซา บีช(Gafsa Beach)"โผล่ขึ้นมาอย่างฉับพลันได้อย่างไร

       
       ข้อมูลของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ระบุว่าทะเลสาบแห่งนี้ครอบคลุมพื้นที่ราว 6.25 ไร่ มีความลึกระหว่าง 10 ถึง 18 เมตร ดังนั้นจึงคาดหมายว่าปริมาณน้ำในทะเลสาบน่าจะอยู่ราวๆ 1 ล้านลูกบาศก์เมตร





เจ้าหน้าที่เตือนว่าน้ำในทะเลสาบ ที่ตอนแรกมีสีน้ำเงินคริสตัล ทว่าจากนั้นก็เปลี่ยนเป็นสีเขียวขุ่นและมีสาหร่ายปรากฎขึ้นมา อาจปนเปื้อนสารพิษที่ทำให้เกิดมะเร็ง แต่ชาวตูนิเซียจำนวนมากก็ไม่สามารถต้านทานสภาพอากาศที่ร้อนระอุกว่า 40 องศาเซลเซียสได้
       

       เชื่อว่ามีประชาชนแล้วมากกว่า 600 คนที่หลั่งไหลมายังทะเลสาบแห่งนี้ ที่ชาวบ้านเรียกว่า "Lac de Gafsa" ทั้งพายเรือเล่น ดำน้ำ กระโดดน้ำลงจากโขดหินและนั่งเล่นริมฝั่ง "บางคนเรียกมันว่าสิ่งอัศจรรย์ แต่บางคนก็บอกว่ามันคือคำสาป" ผู้สื่อข่าวคนหนึ่งบอก
       

       ยังไม่มีคำอธิบายอย่างเป็นทางการว่าทะเลสาบแห่งนี้มีต้นตอจากอะไร แต่นักธรณีวิทยาเชื่อว่าการเคลื่อนตัวของแผ่นดิน ก่อความปั่นป่วนแก่เส้นระดับน้ำใต้ดิน ทำให้น้ำใต้ดินถูกยกขึ้นสู่พื้นผิว อย่างไรก็ตามก็มีอีกหลายคนที่ไม่เห็นด้วยกับทฤษฎีนี้




เจ้าหน้าที่ยังไม่มีคำสั่งห้ามเล่นน้ำอย่างเป็นทางการ แต่สำนักงานความปลอดภัยสาธารณะของกัฟซา เตือนชาวตูนิเซียว่าน้ำอาจปนเปื้อนหรือแม้กระทั่งมีสารกัมมันตรังสี
       

       "ทะเลสาบนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ซึ่งอุดมไปด้วยฟอสเฟตที่สะสมอยู่ ซึ่งกากตะกอนเหล่านี้บางครั้งก็มีสารกัมมันตรังสีระดับสูง" เจ้าหน้าที่กล่าว "ดังนั้นน้ำจึงมีความเสี่ยงปนเปื้อนและมีสารก่อให้เกิดมะเร็ง"

       
       อนึ่งเมืองกัฟซา ตั้งอยู่ภาคกลางของตูนีเซียและเป็นแหล่งอุตสากรรมเหมืองของประเทศ




ภาพจาก http://www.youtube.com/และข้อมูลจาก  http://www.manager.co.th/


ดูคลิปเพิ่มเติม












ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น