วันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

รถเหาะคันแรกของโลก


เอเจนซีส์ - “แอโรโมบิล 3.0 ” (AeroMobil 3.0) ทำให้คนทั่วโลกตื่นตะลึงด้วยความสามารถของรถไฮบริดบินได้ต้นแบบเป็นคันแรกของโลกจากบริษัทแอโรโมบิลที่มีฐานอยู่ในสาธารณรัฐสโลวาเกียที่มุ่งมั่นพัฒนาคิดค้นนวัตกรรมยานยนต์ล้ำอนาคตนี้ตั้งแต่ช่วง 90ได้เปิดตัวที่งานแสดง Pioneers Festival ที่กรุงเวียนนา29 ตุลาคม 2014 เรียกเสียงฮือฮาได้อย่างล้นหลาม ด้วยเครื่องยนต์  Rotax 912 ULS  ปีกที่พับเก็บได้ มีขนาดที่นั่ง 2ที่อยู่ภายใน ตัวรถทำด้วยโลหะน้ำหนักเบาที่เคลือบผืนผิวด้วยคาร์บอน ที่สนนราคาอยู่ระหว่างซูปเปอร์คาร์และเครื่องบินเล็ก


ไทเทียนา เวเบอร์ (Tatiana Veber) โฆษกแอโรโมบิลแถลงว่า “เราได้เริ่มพัฒนาคิดค้นรถบินได้ตั้งแต่ปี 1990 ซึ่งรถต้นแบบคันแรกสุดที่สร้างนั้นมีรูปร่างที่แปลกประหลาดมาก และมีความยุ่งยากในการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน และทำให้เกิดการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดจนนำมาสู่การพัฒนาที่จะทำให้รถไฮบริดของเรานั้นสามารถขับได้ภายใต้กฎหมายจราจรบนท้องถนนทั่วไป และเราได้รับเสียงตอบรับชื่นชมอย่างมากจากผู้เชี่ยวชาญด้านอากาศยานยนต์ถึงการออกแบบที่สวยงามผสมผสานกับเทคโนโลยีอย่างลงตัวในระบบการเปลี่ยนจากรถเป็นเครื่องบิน”
       
       นอกจากนี้โฆษกของแอโรโมบิลยังแถลงเพิ่มเติมว่า “และนอกเหนือไปจากนี้ แอโรบิล 3.0ที่มีเครื่องยนต์ Rotax 912 ULS  ยังถูกออกแบบให้ผู้ขับขี่สามารถเติมน้ำมันตามปกติที่ปั้มน้ำมันเหมือนเช่นรถทั่วไปได้ “

และเมื่อผู้ขับขี่ต้องการบินแอโรบิล 3.0 ที่มีน้ำหนักสุทธิ 450 กก. ปีกที่พับเก็บไว้ซ่อนอยู่จะกางออกทำให้ขยายความกว้างของตัวรถออกไป โดยมีความกว้างใหม่ทั้งหมดราว 8.2 ม. และความยาว 6 ม.ที่มาพร้อม 2 ที่นั่งอยู่ภายในห้องโดยสาร รวมไปถึงความเร็วขณะเทคออฟที่ 130 กม/ชม.


   ด้าน The Wire รายงานว่า ได้มีโอกาสสัมผัสใกล้ชิดกับ แอโรบิล 3.0 ก่อนที่จะมีกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปีหน้า พร้อมกับได้สัมภาษณ์กับผู้ก่อตั้งบริษัทถึงแรงบันดาลใจในการคิดค้นรถล้ำอนาคตคันนี้
       
       “เราได้รับคำเชิญเข้าร่วมงานมอเตอร์โชว์เป็นจำนวนมาก” วาคูลิกเผยกับ The Wire และกล่าวต่อว่า “แต่ทางเราตัดสินใจตอบรับงาน Pioneers Festival ที่กรุงเวียนาเพราะคิดว่าเหมาะกับเรามากที่สุด” ซึ่งโปรเจกต์รถเหาะนี้ล้วนเกิดมาจากทุนส่วนตัวทั้งสิ้น
       
       เบื้องหลังการพัฒนาไฮบริดบินได้เกิดมาจากความคิดที่ต้องการให้ผู้คนสามารถเลือกการเดินทางได้อย่างอิสระ และยังเกิดมาจากควมกดดันในสภาพชีวิตประจำวันที่ผู้คนต้องผจญกับรถติดบนท้องถนนเป็นเวลานาน รวมไปถึงความล่าช้าและยุ่งเหยิงของผู้โดยสารที่ต้องประสบในสนามบิน ซึ่งเป็นปัญหาหลักที่ทางแอโรโมบิลใช้ในการพัฒนาแอโรโมบิล 3.0

       และผู้ก่อตั้งแอโรโมบิลยังกล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ยังมีเหตุผลที่สามในการพัฒนาโปรเจกต์นี้ กล่าวคือ หลายประเทศที่ยังไม่มีการพัฒนาด้านสาธารณูปโภค โดยมีเพียงแค่ 3 % ทั่วทั้งโลกที่มีถนนทางเรียบ และทำให้ทีมผู้สร้างใช้เป็นแรงบันดาลใจในการพัฒนารูปแบบยานยนต์ที่ตอบโจทย์นี้

       The Wire ยังรายงานเพิ่มเติมว่า ผู้ขับขี่ไฮบริดบินได้จำเป็นต้องมีใบอนุญาตขับเครื่องบินเล็ก แต่ทางเจ้าของบริษัทยืนยันว่า การบังคับแอโรโมบิล 3.0 ไม่ยุ่งยาก และมีความเสถียร แต่กระนั้นในขณะนี้ถึงแม้จะมีผู้สนใจทุ่มทุนเสนอราคาซื้อสูงมากเพียงใด แต่บริษัทยานยนต์สัญชาติสโลวาเกียยังไม่เปิดรับใบสั่งซื้อแต่อย่างใด จนกว่าทางบริษัทจะมั่นใจว่าจะสามารถผลิตได้ตามมาตรฐานการผลิตอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วไป

 “เราต้องการเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจยานยนต์อย่างแท้จริง และนี่ไม่ใช่ของเล่นเด็กผู้ชาย รวมถึงเราไม่ได้สร้างอุปกรณ์ประกอบฉากภาพยนต์ของฮอลลิวูด” วาคูลิกกล่าว และแย้มว่า สนนราคาของรถไฮบรดนั้นจะอยู่ในช่วงระหว่างรถซูปเปอร์คาร์ และเครื่องบินเล็ก

                             
ในขณะนี้บริษัทแอโรโมบิลมีพนักงานประจำทั้งหมด 12 คน และจากเว็บไซต์ของบริษัท แอโรโมบิลได้เริ่มต้นกำหนดทดลองบินภายใต้สภาพการบินแท้จริงทั่วท้องฟ้าสโลวาเกียตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป

รถไฮบริดบินได้ “แอโรโมบิล 3.0” (AeroMobil 3 .0)สัญชาติสโลวาเกียนี้ เปิดตัวไปเมื่อ29 ตุลาคม 2014ที่งานความก้าวหน้าทางนวัตกรรมของโลก Pioneers Festival กรุงเวียนนา ออสเตรีย

ดูคลิปเพิ่มเติม


ข้อมูลและภาพจาก http://www.dek-d.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น