วันเสาร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2557

พบปูทะเลยักษ์ ที่ภูเก็ต

ชาวบ้านฮือฮา พบปูทะเลยักษ์ น้ำหนักกว่า 2.8 กิโลกรัม เผยเป็นครั้งแรกที่เคยพบ และมีขนาดใหญ่กว่าตัวที่เคยพบใน จ.กระบี่ ก่อนนำส่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หวังเป็นประโยชน์ด้านการศึกษาต่อไป... 


เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 13 ต.ค. 57 ที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายภสิษ ผดุงการ อายุ 29 ปี ผู้รับเหมาวางระบบประปาและน้ำบาดาล นำปูทะเลยักษ์ที่ยังมีชีวิตและมีน้ำหนักกว่า 2.8 กิโลกรัม ขนาดความกว้างของกระดอง 36 เซนติเมตร ความยาวจากลำตัวถึงก้ามกว่า 2.2 ฟุต โดยยังมีลักษณะพิเศษคือ กระดองมีสีดำ มีก้ามขนาดใหญ่สีน้ำตาลอมเขียว บริเวณด้านหลังกระดองมีลวดลายคล้ายใบหน้าลิง มาส่งมอบให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคาดว่า เป็นปูทะเลที่มียังมีชีวิต และมีความใหญ่ที่สุดตั้งแต่มีการพบมาใน พื้นที่จังหวัดภูเก็ต
จากการตรวจสอบพบว่า เป็นปูทะเลเพศผู้ ชาวประมงพื้นที่เรียกกันว่า ปูทองหลาง หรือปูเขียว หาพบได้ยากมากในปัจจุบัน เนื่องจากป่าชายเลนมีปริมาณลดลง โดยตลอดทั้งวันก่อนที่จะนำปูยักษ์มาส่งมอบให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำไปศึกษาและอาจนำไปเป็นแม่พันธุ์ เพื่อนำลูกๆ มาปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ ได้มีชาวบ้านมาขอซื้อและขอดูปูยักษ์ เพื่อตีเลขเด็ดเป็นจำนวนมาก



ทั้งนี้ เมื่อหลายเดือนที่ผ่านมา ชาวประมงใน จ.กระบี่ เคยจับปูทะเลยักษ์ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับปูทะเลยักษ์ที่จับได้ในครั้งนี้ โดยชาวประมงพื้นบ้านใน จ.กระบี่ จับปูยักษ์ตัวดังกล่าวได้มีน้ำหนัก 2.3 กิโลกรัม แต่มาครั้งนี้ชาวประมงพื้นที่ที่บ้านป่าคลอก ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต จับได้นั้นมีน้ำหนักถึง 2.8 กิโลกรัม ซึ่งนับว่าใหญ่กว่าปูทะเลยักษ์ที่เคยจับได้ในจังหวัดกระบี่ถึง 5 ขีด



นายภสิษ ผดุงการ เล่าให้ฟังว่า ได้ปูตัวดังกล่าวมาจากลูกน้องคนงาน ซึ่งออกไปวางลอบดักปู และวางกับดักปลา ที่บริเวณลำคลองบริเวณบ้านป่าคลอก ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 12 ต.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งลูกน้องเล่าว่า ปูตัวดังกล่าวติดอยู่กับเครื่องดักปลา ตอนแรกคิดว่าเป็นก้อนหิน แต่เมื่อดึงขึ้นพบว่าเป็นปูขนาดใหญ่ จึงนำกลับมาให้ตน ซึ่งตนเองเห็นว่า ปูตัวดังกล่าวมีขนาดใหญ่มาก ในชีวิตไม่เคยพบเห็นปูที่มีขนาดใหญ่เช่นนี้ จึงปรึกษากับครอบครัวว่าจะนำไปมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ เพื่อให้คนอื่นได้ชื่นชมด้วย ขณะเดียวกันอาจนำไปให้ประมงจังหวัดนำไปขยายพันธุ์ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการประมงต่อไป

ภาพและข้อมูลจาก http://www.thairath.co.th/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น